คี่หรือ oตำแหน่ง NSefiant NSisorder เป็นความผิดปกติทางพฤติกรรมที่มักปรากฏในวัยเด็กโดยมีอาการหงุดหงิดและหงุดหงิด คนที่มี ODD มักจะแสดงทัศนคติที่ดื้อรั้นและพยาบาท
ODD เป็นมากกว่าอารมณ์ฉุนเฉียวปกติที่พบในเด็ก ความโกรธเคืองเกิดขึ้นเพื่อตอบสนองเมื่อความปรารถนาของเด็กไม่สำเร็จ โดยปกติ ความโกรธเคืองจะปรากฏเมื่ออายุ 1–1.5 ปี จากนั้นจะแย่ลงเมื่ออายุ 2-3 ปี และบรรเทาลงเมื่ออายุ 4 ปี
ในขณะที่ ODD มักจะปรากฏเมื่ออายุ 6–8 ปี แต่สามารถอยู่ได้นานในวัยรุ่นหรือวัยผู้ใหญ่ อาการที่แสดงออกมานั้นรุนแรงกว่าและปรากฏบ่อยกว่าอารมณ์ฉุนเฉียว ดังนั้นมันจึงส่งผลเสียต่อชีวิตประจำวันของผู้ประสบภัย
สาเหตุและปัจจัยเสี่ยงของ ODD
ไม่ทราบสาเหตุที่แท้จริงของ ODD อย่างไรก็ตาม มีข้อกล่าวหาว่า ODD เกี่ยวข้องกับปัจจัยด้านสิ่งแวดล้อม ชีวภาพ และจิตวิทยา ปัจจัยทางชีววิทยาบางอย่างที่เชื่อว่าทำให้เกิด ODD ได้แก่:
- ทุกข์ทรมานจากการทำงานของสมองผิดปกติ เช่น การทำงานของสารสื่อประสาทผิดปกติ
- มีอาการบาดเจ็บที่สมองที่ทำให้เกิดการรบกวนในส่วนของสมองที่ทำหน้าที่ตัดสิน
- มีพ่อแม่ที่มีประวัติเป็นโรคสมาธิสั้น โรคไบโพลาร์ โรคซึมเศร้า ความประพฤติผิดปกติหรือการเสพยา
- มีแม่ที่สูบบุหรี่ขณะตั้งครรภ์
- ทุกข์ทรมานจากภาวะขาดสารอาหาร
ต่อไปนี้คือปัจจัยทางจิตวิทยาที่เชื่อว่าทำให้เกิด ODD:
- ความไม่ลงรอยกันในครอบครัว
- ขาดความสนใจจากผู้ปกครอง
- ไม่สามารถสร้างความสัมพันธ์ทางสังคม
ในขณะเดียวกัน ปัจจัยด้านสิ่งแวดล้อมที่คิดว่าจะกระตุ้น ODD ได้แก่:
- ความยากจน
- ใช้ในทางที่ผิด
- อยู่ในสภาพแวดล้อมที่เลวร้ายหรือรุนแรง
อาการของ ODD
การต่อต้านและการต่อต้านเป็นพฤติกรรมปกติที่ปรากฏในระหว่างพัฒนาการของเด็ก อย่างไรก็ตาม ในเด็กที่เป็นโรค ODD พฤติกรรมไม่เชื่อฟังนี้จะรุนแรงขึ้นและยาวนานขึ้นอย่างน้อย 6 เดือน
โดยปกติ อาการแปลก ๆ จะปรากฏขึ้นก่อนที่เด็กจะเข้าโรงเรียน แต่ก็สามารถปรากฏก่อนวัยรุ่นได้เช่นกัน อาการเหล่านี้อาจทำให้เกิดความปั่นป่วนในครอบครัว โรงเรียน และสภาพแวดล้อมทางสังคม
อาการ oตำแหน่ง NSefiant NSisorder สังเกตได้จากพฤติกรรมและอารมณ์ของผู้ป่วย ซึ่งสังเกตได้จากพฤติกรรมต่อไปนี้
- หมดความอดทนง่าย
- โกรธง่ายรำคาญและขุ่นเคือง
- อ่อนไหวมากและระคายเคืองง่าย
- มักทำให้คนอื่นรำคาญและโกรธเคือง
- มักทะเลาะกับคนแก่
- มักไม่ปฏิบัติตามคำสั่งหรือข้อบังคับ
- มักจะโทษคนอื่นในความผิดพลาดของตัวเอง
- มักแสดงความไม่พอใจหรือเกลียดชังต่อผู้อื่น
เมื่อไรจะไปหาหมอ
ปรึกษาจิตแพทย์หากบุตรของท่านแสดงอาการข้างต้น หรือหากคุณมีปัญหาในการให้ความรู้และสั่งสอนบุตรของท่านให้ประพฤติตนดี
ODD เป็นสิ่งสำคัญที่จะต้องได้รับการปฏิบัติตั้งแต่เนิ่นๆ มิฉะนั้น ODD อาจเพิ่มความเสี่ยงของผู้ป่วยในการเกิดภาวะซึมเศร้าหรือการใช้ยาในทางที่ผิด
การวินิจฉัย ODD
จิตแพทย์หรือจิตแพทย์จะประเมินสุขภาพจิตของผู้ป่วยผ่านคำถามและคำตอบ ผู้ป่วยสามารถวินิจฉัยโรค ODD ได้หากมีเกณฑ์ที่กำหนดไว้ใน คู่มือการวินิจฉัยและสถิติความผิดปกติทางจิต (DSM-5) ต่อไปนี้:
- มีอาการอย่างน้อย 4 อาการตามที่กล่าวข้างต้น
- อาการจะคงอยู่อย่างน้อย 6 เดือนและส่งผลเสียต่อชีวิตประจำวัน
- อาการไม่ได้เกิดจากการติดยาหรือความผิดปกติทางจิตอื่นๆ เช่น โรคจิต ซึมเศร้า และโรคอารมณ์สองขั้ว
หลังจากนั้นแพทย์จะพิจารณาว่า ODD ที่ผู้ป่วยได้รับนั้นจัดอยู่ในประเภทไม่รุนแรง ปานกลาง หรือรุนแรง ความรุนแรงของอาการเหล่านี้พิจารณาจากความถี่ของอาการที่เกิดขึ้น นี่คือคำอธิบาย:
- คลาดเคลื่อนเล็กน้อย: อาการปรากฏในอาการเดียว เช่น ที่บ้านหรือที่โรงเรียน
- ODD ปานกลาง: อาการปรากฏในสองเงื่อนไขเช่นที่บ้านและที่โรงเรียน
- ODD รุนแรง: อาการปรากฏในสามเงื่อนไขขึ้นไป เช่น ที่บ้าน ที่โรงเรียน และในสภาพแวดล้อมทางสังคม
การจัดการคี่
การจัดการ ODD ขึ้นอยู่กับอายุ ความรุนแรง และความสามารถในการปฏิบัติตามการรักษาของผู้ป่วย การบำบัดสามารถอยู่ได้นานหลายเดือนหรือนานกว่านั้น โดยต้องอาศัยพ่อแม่หรือครอบครัว
จิตแพทย์มักจะรวมการบำบัดหลายประเภทเพื่อรักษาผู้ป่วย ODD เช่น:
- การบำบัดพฤติกรรมทางปัญญาเพื่อปรับปรุงความคิดและพฤติกรรมของผู้ป่วยรวมทั้งปรับปรุงความสามารถในการสื่อสารและแก้ไขปัญหา
- การบำบัดปฏิสัมพันธ์ระหว่างพ่อแม่และลูก เพื่อสอนพ่อแม่ถึงวิธีที่ดีในการเลี้ยงดูและมีปฏิสัมพันธ์กับลูก
- ครอบครัวบำบัด เพื่อปรับปรุงความสัมพันธ์และการสื่อสารระหว่างสมาชิกในครอบครัว
- การบำบัดด้วยทักษะทางสังคม เพื่อปรับปรุงความสามารถของผู้ป่วยในการมีปฏิสัมพันธ์กับผู้อื่น
แพทย์อาจสั่งยาหาก ODD มาพร้อมกับความผิดปกติทางจิตอื่นๆ เช่น ADHD หรือภาวะซึมเศร้า แต่จำไว้ว่ายาเพียงอย่างเดียวไม่สามารถรักษา ODD ได้
เพื่อให้การรักษาได้ผลดียิ่งขึ้น ผู้ปกครองสามารถทำได้ดังนี้:
- เป็นตัวอย่างความประพฤติที่ดีในเด็ก
- หลีกเลี่ยงสิ่งที่อาจทำให้เกิดการโต้เถียงกับเด็ก
- ชมเชยพฤติกรรมเชิงบวกของเด็ก เช่น เมื่อจัดของเล่นให้เรียบร้อย
- ให้โทษตามสมควรแก่เด็ก เช่น ลดเงินค่าขนม ถ้าเขาประพฤติตัวไม่ดี
- ให้ช่วงเวลาพิเศษอยู่กับเด็กๆ อย่างสม่ำเสมอ
- สร้างความร่วมมือกับครอบครัวหรือครูที่โรงเรียนสอนลูกให้มีวินัย
ภาวะแทรกซ้อน ODD
เด็กและวัยรุ่นที่เป็นโรค ODD มักจะพบว่าเป็นการยากที่จะหาเพื่อนและมีปัญหากับครอบครัว ครู หรือผู้อื่น ODD ยังสามารถทำให้เกิดปัญหาอื่นๆ ในเด็ก กล่าวคือ:
- ไม่เต็มใจที่จะเข้าสังคม
- ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนลดลง
- การรบกวนในการควบคุมความปรารถนา
- การใช้ยาในทางที่ผิด
- ความปรารถนาฆ่าตัวตาย
นอกจากนี้ คนส่วนใหญ่ที่เป็นโรค ODD ยังมีความผิดปกติทางจิตอื่นๆ เช่น:
- ADHD
- ความประพฤติผิดปกติ
- โรควิตกกังวล
- ความผิดปกติในการเรียนรู้และการสื่อสาร
- ภาวะซึมเศร้า
การป้องกัน ODD
ฝ่ายค้าน NSefiant NSisorder การป้องกันเป็นเรื่องยาก แต่วิธีการให้ความรู้แก่เด็กอย่างถูกต้องและการรักษาตั้งแต่เนิ่นๆ สามารถช่วยปรับปรุงพฤติกรรมของเด็กและป้องกันไม่ให้ ODD แย่ลงได้
นอกจากนี้ สิ่งสำคัญคือต้องทำให้บ้านเป็นสถานที่แห่งการศึกษาและการดูแลที่สะดวกสบาย พร้อมด้วยความสมดุลระหว่างความรักและวินัย นี้สามารถลดอาการและป้องกันการกำเริบของอาการผิดปกติ