สุขภาพ

นี่คืออาการของตับที่ควรทราบ

โรคตับเกิดขึ้นเมื่อตับหรือตับบกพร่องและทำงานไม่ถูกต้อง โรคนี้มีอาการหลายอย่าง แต่อาการของตับมักเกิดขึ้นหลังจากที่ตับได้รับความเสียหายหรือการทำงานลดลงอย่างรุนแรงเท่านั้น

การรับรู้ถึงอาการของตับเป็นสิ่งสำคัญ เพื่อให้สามารถตรวจพบโรคตับได้โดยเร็วที่สุดและไม่คืบหน้าไปถึงขั้นรุนแรง สาเหตุคือ โรคตับที่สายเกินไปที่จะรับรู้และรักษาอาจทำให้ตับวายหรือตับถูกทำลายอย่างถาวร ดังนั้นวิธีเดียวที่จะเอาชนะมันได้คือการปลูกถ่ายตับ

สังเกตอาการตับดังต่อไปนี้

เมื่อตับหรือตับทำงานผิดปกติ อาจมีข้อร้องเรียนต่างๆ ที่อาจรู้สึกได้ การร้องเรียนที่เกิดขึ้นอาจแตกต่างกันไปในแต่ละผู้ป่วยและขึ้นอยู่กับความรุนแรงของโรคตับที่ได้รับ

บางคนอาจไม่รู้สึกถึงอาการใดๆ เมื่อเริ่มเป็นโรค อาการที่เกิดขึ้นอาจไม่รุนแรงจนไม่เข้าใจผิดว่าเป็นอาการของตับ ต่อไปนี้เป็นอาการของตับที่คุณควรระวังและตรวจสอบกับแพทย์ของคุณ:

1. ผิวและตาเหลือง

อาการตับที่พบบ่อยที่สุดคืออาการเหลืองของผิวหนังและดวงตา ภาวะนี้เรียกว่าโรคดีซ่านเกิดขึ้นเมื่อตับถูกทำลาย ดังนั้นจึงไม่สามารถประมวลผลบิลิรูบินได้อย่างเหมาะสม ภาวะนี้ทำให้บิลิรูบินสะสมในเลือด ทำให้ผิวหนังและดวงตาเปลี่ยนเป็นสีเหลือง

2. ท้องอืด

อาการต่อไปของตับคือช่องท้องบวมเนื่องจากของเหลวที่สะสมอยู่ในช่องท้อง อาการที่เรียกว่าน้ำในช่องท้องมักเกิดขึ้นกับผู้ที่เป็นโรคตับแข็ง

ในขั้นต้น น้ำในช่องท้องสามารถเพิ่มได้เฉพาะรอบเอวและน้ำหนักเท่านั้น อย่างไรก็ตาม หากโรคแย่ลง อาการของตับนี้อาจทำให้ท้องของผู้ป่วยบวมมากจนหายใจไม่ออก

3. คันผิวหนัง

โรคตับสามารถบ่งบอกลักษณะที่ปรากฏของผิวหนังที่มีอาการคัน ทั้งที่ส่วนใดส่วนหนึ่งของร่างกายหรือทั่วทั้งร่างกาย เงื่อนไขนี้สามารถเรียกได้จากสิ่งต่างๆ หนึ่งในนั้นเกิดจากการสะสมของเกลือน้ำดีใต้ผิวหนัง อาการคันอาจรุนแรงจนคุณนอนไม่หลับหรือหยุดตัวเองจากการเกา

4. ช้ำและเลือดออกง่าย

อาการต่อไปของตับคือช้ำง่าย หน้าที่หนึ่งของตับคือการผลิตโปรตีนที่จำเป็นสำหรับกระบวนการแข็งตัวของเลือด เมื่อการทำงานของตับบกพร่อง การผลิตโปรตีนนี้จะลดลง ดังนั้นรอยฟกช้ำจึงเป็นเรื่องง่ายแม้ว่าผลกระทบจะกระทบเพียงเล็กน้อยก็ตาม

นอกจากนี้ อาการตับอื่นๆ ที่อาจปรากฏขึ้น ได้แก่ เหนื่อยล้า เท้าและข้อเท้าบวม ปัสสาวะสีเข้ม อุจจาระสีดำหรือสีซีด คลื่นไส้ อาเจียน และเบื่ออาหาร

ไปพบแพทย์ทันทีหากคุณมีอาการของตับ โดยเฉพาะอย่างยิ่งหากคุณมีความเสี่ยงสูงที่จะเป็นโรคตับ เช่น มีประวัติเป็นโรคตับอักเสบบี ติดแอลกอฮอล์ เป็นเบาหวานชนิดที่ 2 หรือเป็นโรคอ้วน

$config[zx-auto] not found$config[zx-overlay] not found