รูปร่าง ผื่นหรือคัน บน ผิวหลังทานยาปฏิชีวนะ NSพระเยซู ผู้ชายดังนั้น เข้าสู่ระบบ แพ้ยาปฏิชีวนะ ในเด็ก. ลูกน้อยของคุณประสบปัญหานี้หลังจากทานยาปฏิชีวนะหรือไม่? อย่า ตื่นตกใจ, บุญ. แพ้ยาปฏิชีวนะ เอาชนะด้วย จำนวนของ การจัดการ
การแพ้ยาปฏิชีวนะเป็นปฏิกิริยาภูมิคุ้มกันที่มากเกินไปต่อเนื้อหาในยาปฏิชีวนะ ตัวอย่างกลุ่มยาปฏิชีวนะที่มักก่อให้เกิดอาการแพ้ในเด็ก ได้แก่ เพนิซิลลินและซัลฟา
อาการภูมิแพ้ยาปฏิชีวนะในเด็ก
คล้ายกับการแพ้ยาโดยทั่วไป การแพ้ยาปฏิชีวนะในเด็กสามารถจำแนกได้ดังนี้
- ผื่นที่ผิวหนัง
- คันผิวหนัง
- หายใจลำบาก
- กลืนลำบาก
- วิงเวียน
- คลื่นไส้และอาเจียน
- อาการบวมของเปลือกตาและปาก
อาการของการแพ้ยาปฏิชีวนะในเด็กมักเกิดขึ้นระหว่าง 1-2 ชั่วโมงหลังรับประทานยาปฏิชีวนะ อย่างไรก็ตาม เด็กทุกคนมีเวลาเกิดอาการแพ้ต่างกัน
เด็ก ๆ มีความเสี่ยงที่จะเกิดอาการแพ้ยาปฏิชีวนะมากขึ้น หากมีประวัติแพ้ยาปฏิชีวนะในครอบครัว หรือมีประวัติแพ้ยา แพ้อาหาร โรคจมูกอักเสบจากภูมิแพ้ หรือหอบหืด
วิธีเอาชนะการแพ้ยาปฏิชีวนะในเด็ก
บางขั้นตอนที่แม่และพ่อสามารถทำได้เพื่อเอาชนะอาการแพ้ยาปฏิชีวนะที่ลูกน้อยของคุณประสบ ได้แก่:
1. เม้งหยุดกินยาปฏิชีวนะ
หากแม่และพ่อพบว่าลูกน้อยของคุณมีอาการแพ้หลังจากใช้ยาปฏิชีวนะ คุณควรหยุดใช้ยาปฏิชีวนะและไปพบแพทย์ทันที
2. ทำแบบทดสอบภูมิแพ้
เมื่อพ่อกับแม่พาลูกน้อยของคุณไปพบแพทย์ เขาจะได้รับยาเพื่อบรรเทาอาการแพ้ที่เขากำลังประสบอยู่ หลังจากนั้นแพทย์มักจะแนะนำการทดสอบการแพ้เพื่อหาสาเหตุของการแพ้ในเด็ก
หากการแพ้ของลูกคุณเกิดจากยาปฏิชีวนะจริงๆ แพทย์สามารถบอกแม่และพ่อว่าควรหลีกเลี่ยงยาปฏิชีวนะชนิดใด
3. เม้งอินดารี NSให้ยาปฏิชีวนะชนิดเดียวกัน
จดและจำชื่อยาปฏิชีวนะที่ทำให้เด็กแพ้ หากเมื่อใดที่เขาต้องการรักษาอีกครั้ง ให้เล่าประวัติการแพ้ที่เขามีให้แพทย์
สิ่งนี้ทำเพื่อให้แพทย์สามารถหลีกเลี่ยงการให้ยาจากกลุ่มยาปฏิชีวนะ พ่อกับแม่ยังสามารถให้ผลการทดสอบภูมิแพ้ที่ได้ทำไปแล้วได้
คุณรู้วิธีรักษาอาการแพ้ยาปฏิชีวนะในเด็กหรือไม่? ไม่ต้องตกใจอีกต่อไป! เพื่อความตื่นตัวมากขึ้น พ่อกับแม่สามารถขอยาบรรเทาอาการภูมิแพ้ที่บ้านเพื่อเป็นขั้นตอนการรักษาเบื้องต้นได้ หากลูกน้อยของคุณมีอาการแพ้ยาปฏิชีวนะ