หากสตรีมีครรภ์ชอบปัสสาวะ ควรหยุดนิสัยทันที ใช่ค่ะ การปัสสาวะบ่อยเกินไประหว่างตั้งครรภ์ไม่ใช่เรื่องดีเพราะอาจทำให้เกิดปัญหากับทางเดินปัสสาวะได้โดยเฉพาะการติดเชื้อทางเดินปัสสาวะ
เมื่อเกิดความอยากปัสสาวะ (BAK) สตรีมีครรภ์ควรเข้าห้องน้ำทันทีและอย่ากลั้นปัสสาวะนานเกินไป ที่จริงแล้วการฉี่ถ้าเพียงสั้นๆ หรือทำเป็นบางครั้ง ก็ไม่เป็นปัญหา อย่างไรก็ตาม หากคุณปัสสาวะบ่อยเกินไปหรือนานเกินไป สตรีมีครรภ์อาจเสี่ยงต่อการติดเชื้อทางเดินปัสสาวะ (UTI)
สาเหตุของสตรีมีครรภ์ที่เสี่ยงต่อการติดเชื้อ UTI
สตรีมีครรภ์มักจะปัสสาวะบ่อยขึ้น (BAK) เนื่องจากการเปลี่ยนแปลงของฮอร์โมนระหว่างตั้งครรภ์ การเปลี่ยนแปลงของฮอร์โมนเหล่านี้ทำให้ปริมาณเลือดและการไหลเวียนของเลือดไปยังไตเพิ่มขึ้น ดังนั้นร่างกายของสตรีมีครรภ์จะผลิตปัสสาวะมากขึ้น
นอกเหนือจากการเพิ่มปริมาณปัสสาวะระหว่างตั้งครรภ์ ขนาดของมดลูกที่เพิ่มขึ้นตามอายุก็สามารถสร้างแรงกดดันต่อกระเพาะปัสสาวะได้เช่นกัน สิ่งเหล่านี้ทำให้สตรีมีครรภ์รู้สึกอยากปัสสาวะบ่อยขึ้น
หากคุณกลั้นปัสสาวะบ่อยเกินไป การไหลของปัสสาวะในทางเดินปัสสาวะและกระเพาะปัสสาวะอาจถูกรบกวนได้ ซึ่งจะทำให้เชื้อโรคเพิ่มจำนวนและทำให้เกิดการติดเชื้อในทางเดินปัสสาวะได้ง่ายขึ้น
สัญญาณและอาการบางอย่างของ UTI
การติดเชื้อทางเดินปัสสาวะอาจไม่มีอาการ อย่างไรก็ตาม โดยทั่วไป การติดเชื้อทางเดินปัสสาวะจะทำให้เกิดอาการต่างๆ เช่น:
- ปวดหรือแสบร้อนขณะปัสสาวะ
- ปัสสาวะที่ผ่านมีเมฆมาก มีเลือดปน หรือมีกลิ่นเหม็น
- ไข้
- ปวดและไม่สบายบริเวณอุ้งเชิงกราน ท้องน้อย และหลังส่วนล่าง
- ปวดเวลามีเพศสัมพันธ์
นอกจากอาการข้างต้นแล้ว การติดเชื้อทางเดินปัสสาวะยังทำให้เกิดอาการคลื่นไส้อาเจียน ปวดหลัง และอันยาง-อันยางัน
เคล็ดลับเพื่อหลีกเลี่ยง UTIs ในระหว่างตั้งครรภ์
เพื่อป้องกันโรค UTI ในระหว่างตั้งครรภ์ สตรีมีครรภ์ควรปฏิบัติดังนี้:
ดื่มน้ำให้เพียงพอ
การถ่ายปัสสาวะ (BAK) เป็นกระบวนการทางธรรมชาติของร่างกายในการกำจัดของเหลวส่วนเกินและของเสียออกจากร่างกาย การดื่มน้ำให้เพียงพอ ร่างกายของสตรีมีครรภ์จะผลิตปัสสาวะมากขึ้นเพื่อให้ปัสสาวะบ่อยขึ้น เป็นการดีสำหรับการทำความสะอาดทางเดินปัสสาวะของเชื้อโรคตามธรรมชาติ
ไม่เพียงเท่านั้น การดื่มน้ำให้เพียงพอยังช่วยป้องกันสตรีมีครรภ์ไม่ให้ขาดน้ำอีกด้วย สัญญาณที่บ่งบอกว่าร่างกายของหญิงตั้งครรภ์ได้รับของเหลวเพียงพอคือปัสสาวะเป็นสีเหลืองอ่อนหรือใส
อย่างไรก็ตาม คุณควรหลีกเลี่ยงการดื่มน้ำมากเกินไปก่อนเข้านอนในตอนกลางคืน เพราะอาจทำให้สตรีมีครรภ์ตื่นมาปัสสาวะบ่อยได้
ทำความสะอาดพื้นที่ผู้หญิงเป็นประจำ
เพื่อไม่ให้เชื้อโรคเข้าสู่ทางเดินปัสสาวะได้ง่าย สตรีมีครรภ์จึงต้องทำความสะอาดอวัยวะใกล้ชิดอย่างถูกวิธีบ่อยๆ คือ ล้างช่องคลอดด้วยน้ำสะอาดแล้วเช็ดจากด้านหน้าไปด้านหลัง (จากช่องคลอดถึงทวารหนัก) โดยเฉพาะ หลังการถ่ายปัสสาวะทุกครั้ง
เพื่อให้บริเวณจุดซ่อนเร้นแห้งและสบาย ให้สวมชุดชั้นในที่ไม่รัดจนเกินไปและทำจากผ้าฝ้ายเพราะวัสดุนี้สามารถดูดซับเหงื่อได้ดี อย่าลืมเปลี่ยนชุดชั้นในทุกวันนะ
หลีกเลี่ยงนิสัยกลั้นปัสสาวะ
ดังที่ได้กล่าวไว้ก่อนหน้านี้ นิสัยในการกลั้นปัสสาวะอาจทำให้เกิดการติดเชื้อทางเดินปัสสาวะ (UTIs) ดังนั้นสตรีมีครรภ์จึงต้องหลีกเลี่ยงนิสัยนี้
หากคุณเริ่มรู้สึกอยากปัสสาวะ ให้ไปเข้าห้องน้ำทันทีและปัสสาวะจนหมด สตรีมีครรภ์ไม่จำเป็นต้องรีบปัสสาวะ
นอกจากนี้ เพื่อไม่ให้ไปห้องน้ำบ่อยเกินไปเพื่อปัสสาวะ สตรีมีครรภ์ไม่ควรดื่มเครื่องดื่มที่ขับปัสสาวะ เช่น กาแฟ ชา หรือน้ำอัดลมที่มีคาเฟอีน
หากหญิงตั้งครรภ์มีอาการ UTI คุณควรปรึกษาแพทย์ทางนรีเวชทันทีเพื่อให้สามารถรักษาอย่างปลอดภัยเพื่อไม่ให้ UTI แย่ลงและเป็นอันตรายต่อทารกในครรภ์